SCG HOUSING EXPERT สาขาราชพฤกษ์

ติดต่อฝ่ายขายโทร. 02-422-5995-8

ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

แต่งบ้านเสริมมงคลด้วยโทนสีในแบบฉบับวัฒนธรรมจีน

แต่งบ้านเสริมมงคลด้วยโทนสีในแบบฉบับวัฒนธรรมจีน

แต่งบ้านเสริมมงคลด้วยโทนสีในแบบฉบับวัฒนธรรมจีน

ไอเดียการแต่งบ้านด้วยสีที่เป็นมงคลตามความเชื่อของวัฒนธรรมจีน อย่างสีแดงและสีทอง เพื่อเสริมความเป็นมงคลให้กับบ้านและผู้อยู่อาศัย

 แต่งบ้านเสริมมงคลด้วยโทนสีในแบบฉบับวัฒนธรรมจีน หากจะกล่าวถึงสีที่เป็นมงคลสำหรับวัฒนธรรมจีน จะมีสีที่เป็นเอกลักษณ์และเป็นที่นิยมอย่างเด่นชัดมาจนถึงปัจจุบัน นั่นก็คือสีแดงและสีทอง ซึ่งเราจะสังเกตเห็นได้จากวันสำคัญต่างๆ เช่น วันตรุษจีน วันสารทจีน วันแต่งงาน บ้านเรือนหรือสถานที่จัดงานจะถูกประดับประดาด้วยสีแดงและสีทอง ซองอั่งเปาก็จะนิยมใช้ซองสีแดงเช่นกัน แม้กระทั่งกระดานหุ้น ซึ่งหากเป็นประเทศอื่นๆ ตัวเลขสีแดงจะหมายถึงราคาหุ้นที่ร่วงหรือลดลงจากเดิม แต่สำหรับประเทศจีน ไต้หวัน และฮ่องกง หากตัวเลขราคาหุ้นเป็นสีแดง กลับหมายถึงราคาหุ้นที่กำลังเพิ่มขึ้น

     สำหรับใครที่อยากแต่งบ้านด้วยสีอันเป็นมงคลอย่างสีแดงและสีทอง แต่ยังนึกไม่ออกว่าจะนำมาใช้ตกแต่งในส่วนไหนดี เรามีตัวอย่างมาแนะนำกันค่ะ  

     สีแดง ในวัฒนธรรมจีนหมายถึง ความโชคดี ความสุข และความเจริญรุ่งเรือง นอกจากนี้โทนสียังมีผลกับจิตใจและอารมณ์ของเราด้วย อย่างสีแดงสด จะทำให้รู้สึกกระตือรือร้นและตื่นตัวอยู่เสมอ ส่วนสีแดงเลือดหมูจะสะท้อนถึงความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และให้ความรู้สึกที่เป็นมิตร หากชื่นชอบสีแดงอยู่แล้ว ก็สามารถนำสีแดงมาเป็นสีหลักในการตกแต่งได้เลย ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของพื้นหรือผนัง แต่หากกังวลว่าจะจัดจ้านจนเกินไป ก็อาจจะลดทอนลงมาใช้เป็นแค่องค์ประกอบหรือของตกแต่งในห้องนั้นๆ แทน

แต่งบ้านเสริมมงคลด้วยโทนสีในแบบฉบับวัฒนธรรมจีน 1
ภาพ: สีแดงก็สามารถนำมาตกแต่งให้ดูโมเดิร์นได้ เช่นห้องรับแขกห้องนี้ที่ใช้โทนสี ขาว เทา แดง และอย่าลืมคุมโทนให้ของตกแต่งต่างๆ อยู่ในโทนสีเดียวกันด้วย
แต่งบ้านเสริมมงคลด้วยโทนสีในแบบฉบับวัฒนธรรมจีน 2
ภาพ: ใช้เฟอร์นิเจอร์หรือวัสดุตกแต่งที่เป็นสีแดง อย่าง ผ้าม่าน หมอน โต๊ะ หรือพรม ก็ช่วยเพิ่มสีสันและความเป็นมงคลให้กับห้องได้แล้ว
แต่งบ้านเสริมมงคลด้วยโทนสีในแบบฉบับวัฒนธรรมจีน 3
ภาพ: ห้องน้ำที่ใช้กระบื้องสีแดงสดมาตกแต่งผนัง พร้อมเบรคความร้อนแรงด้วยสีขาว และวัสดุลายไม้จาก ฝ้า กระเบื้องพื้น และเฟอร์นิเจอร์ ขอบคุณภาพจาก: COTTO
แต่งบ้านเสริมมงคลด้วยโทนสีในแบบฉบับวัฒนธรรมจีน 4
ภาพ: คู่สีที่ตัดกันอย่างสีดำและสีแดง ก็สามารถนำมาตกแต่งร่วมกันได้อย่างลงตัว เพิ่มความโดดเด่นด้วยกระเบื้องลายดอกไม้ในโทนสีร้อน ที่ช่วยขับให้ห้องน้ำนี้มีเอกลักษณ์ในแบบเฉพาะตัว ขอบคุณภาพจาก: COTTO
แต่งบ้านเสริมมงคลด้วยโทนสีในแบบฉบับวัฒนธรรมจีน 5
ภาพ: หากเป็นพื้นที่ภายนอกบ้าน สามารถใช้ปูนฉาบตกแต่งผิวโทนสีแดง (สำหรับฉาบตกแต่งผนังชั้นสุดท้ายบางๆ เพียงแค่ 1-3 มิลลิเมตร) ฉาบตกแต่งและทำลวดลายให้กับผนังภายนอกบ้าน นอกจากจะเพิ่มความเป็นมงคลแล้ว ยังเพิ่มเอกลักษณ์ให้กับบ้านด้วย

    สีทอง หมายถึง ความบริบูรณ์ พลังแห่งความหวัง และความสดชื่นรื่นเริง อีกทั้งยังหมายถึงการให้ชีวิตใหม่ ให้พลังใหม่อีกด้วย ในด้านการตกแต่ง สีทองสามารถเข้ากับสีอื่นๆ ได้หลากหลาย หรือหากใช้กับคู่สีที่ตัดกันก็จะให้ความโดดเด่นในรูปแบบของความหรูหรา สีทองจึงสามารถนำมาประยุกต์ใช้ตกแต่งในทุกๆ ส่วนของบ้านได้อย่างดี

แต่งบ้านเสริมมงคลด้วยโทนสีในแบบฉบับวัฒนธรรมจีน 6
ภาพ: คู่สีที่ใกล้เคียงกับสีทองที่สุด คือสีเหลือง เราอาจตกแต่งผนังห้องด้วยสีเหลือง และใช้เฟอร์นิเจอร์หรือของตกแต่งต่างๆ เป็นสีทอง สีเหลืองจะช่วยขับให้สีทองดูสุกสว่างสดใส
แต่งบ้านเสริมมงคลด้วยโทนสีในแบบฉบับวัฒนธรรมจีน 7
ภาพ: ตกแต่งสีทองให้กับห้องสีขาวสไตล์ร่วมสมัย ด้วยของตกแต่งสีทองที่มีดีไซน์เรียบง่าย อย่างเช่น ท็อปโต๊ะทรงกลม กรอบตู้ และโคมไฟ
แต่งบ้านเสริมมงคลด้วยโทนสีในแบบฉบับวัฒนธรรมจีน 8
ภาพ(บน): ตกแต่งผนังห้องนอนด้วยวอลเปเปอร์ที่มีลวดลายของตัวอักษรสีทองระยิบระยับ พร้อมประดับด้วยหมอนอิงในโทนสีเดียวกัน (ล่าง): ห้องโทนสีเข้ม ตกแต่งด้วยองค์ประกอบสีทอง ความตัดกันของคู่สีจะทำให้ห้องดูโดดเด่นในแบบลึกลับน่าค้นหา
แต่งบ้านเสริมมงคลด้วยโทนสีในแบบฉบับวัฒนธรรมจีน 9
ภาพ: ห้องน้ำที่ให้ความรู้สึกหรูหราสง่างาม ผ่านกระเบื้องลวดลายหินอ่อนโทนสีสบายตา เพิ่มลูกเล่นให้กับผนังด้วยโมเสกทองที่ล้อไปกับบัวฝ้าเพดาน เฟอร์นิเจอร์ และ Accessory รูปทรงคลาสสิก ขอบคุณภาพจาก: COTTO​
แต่งบ้านเสริมมงคลด้วยโทนสีในแบบฉบับวัฒนธรรมจีน 10
ภาพ: ความหรูหราที่มาพร้อมกับความทันสมัย ด้วยการใช้สีทองจากกระเบื้องตกแต่งผนังลวดลายสามเหลี่ยม กรอบกระจกและกรอบช่องวางของรูปทรงคลาสสิก ตัดกับสีชมพูของพรมและเบาะรองนั่ง ให้ภาพลักษณ์ของหญิงสาวที่มีความสดใสและเป็นตัวของตัวเอง ขอบคุณภาพจาก: COTTO

ขอบคุณที่มาของบทความ : www.scgbuildingmaterials.com

ใส่ความเห็น

×

Cart