ผ้าม่านเพื่อสุขภาพ ลดสาเหตุเกิดภูมิแพ้
รู้หรือไม่ว่า มีประเภทผ้าม่านที่คำนึงถึงสุขภาพของคนที่แพ้ง่ายหรือมีปัญหาภูมิแพ้ด้วย ตั้งแต่ผ้าม่านฟอกอากาศ ผ้าม่านไม่อมฝุ่น รวมถึงผ้าม่านที่ช่วยยับยั้งการเติบโตของเชื้อรา แบคทีเรีย และช่วยลดกลิ่นอับชื้นอีกด้วย
(บทความหมวด : ดูแลรักษา)
สำหรับคนที่แพ้ง่าย หรือมีปัญหาภูมิแพ้นั้น ผ้าม่านนับเป็นส่วนประกอบหนึ่งในบ้านที่อาจกักเก็บฝุ่นและสะสมเชื้อโรคได้ นานๆ ทีเราถึงมีโอกาสได้ทำความสะอาด ซึ่งผ้าม่านบางชนิดก็ทำความสะอาดยากอีกด้วย จะดีแค่ไหนนะ หากผ้าม่านที่เราเลือกใช้ไม่อมฝุ่น อมฝุ่นน้อย กันไรฝุ่น หรือช่วยฟอกอากาศได้ ให้เราอยู่ในบ้านได้อย่างไม่ต้องกังวลว่าจะแพ้ ด้วยนวัตกรรมผ้าม่านเพื่อสุขภาพสำหรับคนแพ้ง่าย ที่มีให้เลือก 3 ประเภทดังนี้
1.ผ้าม่านโปร่งฟอกอากาศ PURE AIR SHEER: กรองแสงให้นุ่มละมุนตา พร้อมถ่ายเทอากาศให้ปลอดโปร่งโล่งสบาย ห่างไกลเชื้อรา แบคทีเรีย และกลิ่นอับชื้น สามารถซักทำความสะอาดได้ไม่จำกัดจำนวนครั้งโดยประสิทธิภาพการฟอกอากาศจะคงอยู่ถาวร
“ผ้าม่านฟอกอากาศ” เทคโนโลยีผ้าม่านนำเข้าจากเยอรมัน โดยใช้สารไททาเนียมไดออกไซด์เคลือบอยู่บนผ้าที่ทำหน้าที่ไปจับตัวกับมลพิษ แบคทีเรีย สารอินทรีย์ สิ่งสกปรกต่างๆ และสารก่อภูมิแพ้ในอากาศ แล้วเกิดการย่อยสลายกลายเป็นคาร์บอนไดออกไซด์และน้ำ ซึ่งไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม
เหมาะสำหรับ: บ้านพักอาศัยในเมืองใหญ่ (รวมถึงบ้านใหม่หรือบ้านเพิ่งรีโนเวทเสร็จ) ที่เต็มไปด้วยมลพิษทางอากาศ ไอระเหยจากสารเคมี หรือสารพิษต่างๆ เช่น สารฟอร์มาลดีไฮด์จากเฟอร์นิเจอร์ สี ควันบุหรี่ รวมไปถึงจุลินทรีย์ที่สะสมอยู่ในห้องน้ำ ห้องครัว ที่ทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ (มลพิษทางอากาศเป็นสาเหตุให้เกิด “โรคตึกเป็นพิษ (Sick Building Syndrome)” ทำให้เรามีอาการอ่อนเพลีย ปวดหัว นอนไม่หลับ ไปจนถึงมีอาการระบบทางเดินหายใจที่ผิดปกติ)
*ผ้าม่านโปร่งฟอกอากาศ PURE AIR SHEER มีหลักการทำงานที่ได้แรงบันดาลใจมาจากกระบวนการสังเคราะห์แสงของพืช โดยการใช้รังสีอัลตราไวโอเลต (UV) จากพลังงานแสงอาทิตย์ หรือจากหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ หรือหลอด LED เร่งให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมีกับสารไททาเนียมไดออกไซด์ (Titanium Dioxide) ที่เคลือบอยู่บนผ้า (สารไททาเนียมไดออกไซด์ทำปฏิกิริยากับรังสี UV ได้เร็ว ทนทานต่อการกัดกร่อน มีความเสถียรสูง มีความสามารถในการละลายต่ำ และปลอดภัย) ทำให้เกิดอนุมูลอิสระของไฮดรอกซิล (Hydroxyl Radical) ซึ่งจะไปรวมตัวกับมลพิษ แบคทีเรีย สารอินทรีย์ สิ่งสกปรกต่างๆ และสารก่อภูมิแพ้ในอากาศ แล้วเกิดการย่อยสลายกลายเป็นคาร์บอนไดออกไซด์ และน้ำ ซึ่งไม่เป็นอันตรายกับสิ่งแวดล้อม (ปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์และน้ำที่เกิดขึ้น จะขึ้นอยู่กับปริมาณแสงที่ตกกระทบกับผ้าม่านและอากาศนั้น ซึ่งเกิดในปริมาณที่น้อยมากๆ ไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าและร่างกายมนุษย์)
2.ผ้าม่านไม่อมฝุ่น ANTI-DUST: เมื่อ “ผ้า” อมฝุ่นน้อย “ภูมิแพ้” ก็ไม่เกิด
“ผ้าม่านไม่อมฝุ่น” ผ้าม่านนวัตกรรม Anti-Allergy ช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดภูมิแพ้ทางระบบหายใจ ด้วยนวัตกรรมผ้าเคลือบชั้นฟิล์มใส ช่วยเคลือบเส้นใยผ้าให้เรียบเนียนขึ้น ช่วยลดการเกาะติดของฝุ่นตามร่องบนเนื้อผ้าได้สูงถึง 83.3% เมื่อเทียบกับผ้าที่ไม่ได้เคลือบ รวมถึงปลอดภัยต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม แบ่งออกเป็น
2.1ANTI-DUST BLACKOUT ผ้าม่านบล็อกแสง 100% ไม่อมฝุ่น: เป็นผ้าม่านประเภท BLACKOUT แบบไม่อมฝุ่น ที่มีการเคลือบชั้นฟิล์มใส ซึ่งประสิทธิภาพของสารเคลือบ Anti-Allergy ยังคงอยู่ แม้ผ่านการซักถึง 3 ครั้ง (ถ้าซักเกิน 3 ครั้ง ประสิทธิภาพจะลดลงทุกครั้งที่ซัก) *ผ้า BLACKOUT คือผ้าที่บล็อกแสงได้สูงสุดถึง 100% ช่วยให้ห้องมืดสนิทได้ แม้ในเวลากลางวัน ลดเสียงรบกวนจากภายนอกห้องได้ ลดร้อนให้บ้านเย็น ช่วยประหยัดพลังงาน เหมาะสำหรับ: ห้องนอน ห้องโฮมเธียเตอร์ หรือห้องอื่นๆ ที่ต้องการบล็อกแสงธรรมชาติ
2.2ANTI-DUST DIMOUT ผ้าม่านดิมเอาท์ไม่อมฝุ่น: ผ้าม่านประเภท DIMOUT ที่มีการเคลือบชั้นฟิล์มใส ในระดับ Micro Particle (ขนาดเคลือบเฉลี่ย 20 นาโนเมตร หรือ 0.02 ไมครอน ซึ่งประสิทธิภาพของสารเคลือบ Anti-Allergy ยังคงอยู่ แม้ผ่านการซักถึง 5 ครั้ง (ถ้าซักเกิน 5 ครั้ง ประสิทธิภาพจะลดลงทุกครั้งที่ซัก) *ผ้า DIMOUT เป็นผ้าม่านที่มีการเย็บผ้าซ้อนกันถึง 3 ชั้น โดยผ้าตรงกลางจะเป็นผ้าสีดำ เพื่อป้องกันแสงและรังสียูวีจากภายนอกเข้าสู่ภายในห้องได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดร้อน สะท้อนยูวี ทำให้บ้านเย็นขึ้น เหมาะสำหรับ: ห้องนั่งเล่น หรือห้องที่โดนแดดแรงๆ ในเวลากลางวัน
2.3ANTI-DUST GENERAL ผ้าม่านไม่อมฝุ่น: ผ้าม่านทอลายทั่วไปที่ไม่อมฝุ่น ด้วยนวัตกรรม Anti-Allergy ผ้าเคลือบชั้นฟิล์มใส ช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคภูมิแพ้ทางระบบหายใจ เหมาะสำหรับ: ห้องทั่วไปในบ้าน
การทำความสะอาดผ้าม่านไม่อมฝุ่น ANTI-DUST ทั้ง 3 รุ่นนี้ แนะนำให้ใช้การดูดฝุ่นแทนการซักเพื่อยืดอายุการใช้งาน หรือหากต้องการซักควรส่งร้านที่มีความเชี่ยวชาญด้านการทำความสะอาดผ้าม่านโดยเฉพาะ
3.ผ้าม่าน SANITIZED ACTIFRESH: ผ้าม่านกันไรฝุ่น แบคทีเรีย เชื้อรา ลดกลิ่นอับชื้น
นวัตกรรมการย้อมผ้าด้วยสารเคลือบที่ช่วยลดการเกาะของฝุ่น ไรฝุ่น ยับยั้งการเติบโตของเชื้อราและแบคทีเรีย อีกทั้งช่วยลดกลิ่นอับชื้น มีประสิทธิภาพยาวนาน แม้ผ่านการซักหลายครั้ง
เหมาะสำหรับ: ทุกห้อง
*พัฒนานวัตกรรมนี้โดย Swiss antimicrobial Expertise ผู้นำนวัตกรรมวัสดุศาสตร์ที่ปลอดเชื้อและด้านการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ ตั้งแต่ปี 1935
ผ้าม่านทั้ง 3 ประเภทนี้ นับเป็นอีกทางเลือกสำหรับคนที่แพ้ง่ายหรือเป็นภูมิแพ้ได้ดีไม่น้อย ช่วยให้สมาชิกในบ้านหายใจได้เต็มปอดมากขึ้น อีกทั้งไร้กังวลกับสิ่งที่อาจปนเปื้อนมากับผ้า เพราะเป็นผ้าม่านปลอดสารพิษ ที่ทุกกระบวนการผลิตเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไร้สารเคมีตกค้างบนผ้า เหมาะสำหรับที่อยู่อาศัยและวิถีชีวิตในเมืองได้เป็นอย่างดี
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพ: VC Fabric
ขอขอบคุณที่มาของบทความ
www.scghome.com