มุงหลังคาให้บ้านต้องกันร้อน กันรั่ว แข็งแรงทนแรงลม

มุงหลังคาให้บ้านต้องกันร้อน กันรั่ว แข็งแรงทนแรงลม 3 ระบบหลังคาเพื่อบ้านอยู่สบายและปลอดภัย ทั้งระบบหลังคากันร้อน ระบบหลังคากันรั่ว และระบบยึดหลังคาจากเอสซีจี

เพราะหลังคาช่วยปกป้องบ้านของเราจากแดดและฝน การลดความร้อนที่หลังคาและป้องกันน้ำฝนรั่วซึมจึงเป็นสิ่งสำคัญ ยิ่งไปกว่านั้นกระเบื้องหลังคาควรยึดแน่นบนโครงที่แข็งแรง ทนต่อแรงลมหรือพายุรุนแรงอย่างในบ้านเราได้อย่างดี หลังคาบ้านที่ดีจึงควรประกอบไปด้วย 3 ระบบ คือ ระบบหลังคากันร้อน ระบบหลังคากันรั่ว และระบบยึดหลังคา เอสซีจี

อยู่อย่างสบายกายด้วย “ระบบหลังคากันร้อน เอสซีจี”

เพราะกว่า 70% ของความร้อนจากแสงธรรมชาติจะส่งผ่านเข้ามาภายในบ้านได้จากทางหลังคา ดังนั้นจึงควรหาวิธีลดความร้อนและป้องกันความร้อนที่จะส่งผ่านลงมา ด้วยระบบหลังคากันร้อน เอสซีจี (SCG Heat Protection System) ซึ่งประกอบด้วยวัสดุกันความร้อนสำหรับติดตั้งกับแปหลังคาอย่าง “แผ่นสะท้อนความร้อน เอสซีจี” ที่ช่วยสะท้อนรังสีความร้อนได้ถึง 95% หรือ “แผ่นสะท้อนความร้อน เอสซีจี รุ่นอัลตราคูล” ที่มีฉนวนใยแก้วช่วยหน่วงความร้อน และวัสดุกันความร้อนสำหรับวางบนฝ้าเพดานอย่าง “ฉนวนกันความร้อน เอสซีจี รุ่น STAY COOL” ที่ทำหน้าที่ป้องกันความร้อนไม่ให้เข้าสู่ตัวบ้าน ทั้งนี้ ควรมีการระบายความร้อนในโถงหลังคาด้วย ไม่ว่าจะเป็นระบบ กลไกธรรมชาติ เช่น เลือกใช้ฝ้าชายคาแบบมีรูระบายอากาศ หรือการใช้อุปกรณ์ช่วยเร่งอัตราการระบายอากาศ

อยู่อย่างสบายใจด้วย “ระบบหลังคากันรั่ว เอสซีจี”

ปัญหาหลังคารั่วเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งส่วนใหญ่ปัญหาที่พบบ่อยที่สุดคือ จุดเสี่ยงบริเวณรอยต่อหลังคา และ จุดเสี่ยงบนผืนหลังคา จุดเสี่ยงบริเวณรอยต่อหลังคานั้นได้แก่ สันหลังคาและตะเข้สัน ซึ่งสามารถป้องกันได้การทำระบบหลังคากันรั่ว เอสซีจี (SCG Leakage Protection System) โดยการเลือกใช้ชุดอุปกรณ์ยึดครอบระบบแห้ง เอสซีจี (SCG Drytech System) ที่ช่วยยึดติดแนบสนิทบริเวณรอยต่อหลังคาได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับรอยต่อส่วนอื่นๆ (เช่น ตะเข้สันชนปั้นลม หน้าบรรณ) สามารถเลือกใช้แผ่นปิดรอยต่อ เอสซีจี (SCG Flashing) ปิดบริเวณรอยต่อและสามารถทาสีเพื่อให้กลมกลืนไปกับสีของผืนหลังคาได้ อีกทั้งควรติดตั้งรางน้ำตะเข้ที่ทำจากวัสดุทนทาน (เช่น สเตนเลส อลูซิงค์ หรือกัลวาไนซ์เคลือบสี) มีขนาดและรูปทรงที่รองรับและระบายน้ำได้ดี สำหรับจุดเสี่ยงบนผืนหลังคาบ้านจะเกิดได้จาก 2 ปัจจัยหลักคือ ปัจจัยจากโครงสร้างหลังคา และ ปัจจัยจากกระเบื้องหลังคา ซึ่งสามารถป้องกันได้โดยการออกแบบและคำนวณโครงสร้างหลังคาที่ถูกต้องโดยผู้เชี่ยวชาญ มีความชันหลังคาเหมาะสมกับกระเบื้องแต่ละรุ่นที่เลือกใช้ รวมถึงเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ที่มีคุณภาพและการติดตั้งที่ถูกวิธีได้มาตรฐาน

อยู่อย่างปลอดภัยด้วย “ระบบยึดหลังคา เอสซีจี”

จากข้อมูลความเร็วลมที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นในปัจจุบัน (มีระดับความเร็วลมสูงสุดที่ 103 กม./ชม. ถึงมากกว่า 118 กม./ชม.) อาจสร้างความเสียหายให้กับผืนหลังคาได้ในอนาคต เราจึงควรป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้โดยการติดตั้งที่ทำให้หลังคามีความแข็งแรงและปลอดภัยที่สุดด้วยระบบยึดกระเบื้องหลังคาจากอุปกรณ์หลังคา เอสซีจี (SCG Fixing Solution System) ซึ่งจะยึดกระเบื้องทุกแถวทุกแผ่นพร้อมติดตั้งขอยึดเชิงชาย นอกจากนี้ ทางเอสซีจีจะมีการคำนวณการใช้งานระบบยึดหลังคาให้เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ด้วย ตัวอย่างเช่น สำหรับพื้นที่ที่มีความเร็วลมประมาณ 133 กม./ชม. ควรมีการยึดกระเบื้องทุกแถวทุกแผ่น พร้อมติดตั้งขอยึดเชิงชายและแผ่นรองใต้หลังคา ส่วนพื้นที่ที่มีความเร็วลมตั้งแต่ 186 กม./ชม. ขึ้นไป ควรมีการยึดกระเบื้องทุกแถวทุกแผ่น ติดตั้งขอยึดเชิงชาย ขอยึดกระเบื้อง และแผ่นรองใต้หลังคา

นอกเหนือจากปัจจัยเรื่องความเร็วลมที่เพิ่มสูงขึ้นแล้ว ยังมีอีก 4 ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อแรงลมนั่นก็คือ ขนาดและรูปทรงหลังคา ช่องเปิดระบายอากาศ ทำเลที่ตั้งอาคาร และ สภาพสิ่งบดบังโดยรอบอาคาร ที่ส่งผลให้ความเร็วและแรงของลมของแต่ละพื้นที่นั้นแตกต่างกัน การเลือกใช้อุปกรณ์ยึดหรืออุปกรณ์ลดแรงปะทะจึงต่างกัน ซึ่งควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือผู้ผลิตเพื่อออกแบบคำนวณให้เหมาะสม

นอกจากการทำระบบหลังคาที่ดี โครงหลังคาที่รองรับผืนหลังคาก็ควรมีความแข็งแรง ซึ่งสามารถเลือกใช้เป็นโครงหลังคาเหล็กหรือโครงหลังคากัลวาไนซ์ โดยควรให้ผู้เชี่ยวชาญออกแบบคำนวณขนาด ความหนา และรูปแบบโครงที่เหมาะสม เพื่อความปลอดภัย