4 ทางเลือกกำจัดเศษอาหารเหลือทิ้งในบ้าน
แนะนำวิธีกำจัดขยะเศษอาหารในบ้านพักอาศัย พร้อมข้อดีและข้อคำนึงของแต่ละทางเลือก ทั้งการนำเศษอาหารใส่ถุงขยะ การนำเศษอาหารไปฝังกลบหรือทำปุ๋ยหมัก รวมถึงการใช้อุปกรณ์ตัวช่วยอย่างเครื่องกำจัดเศษอาหาร
ขยะเศษอาหารเป็นสิ่งที่ทุกบ้านจะต้องเผชิญไม่มากก็น้อย ส่วนวิธีการกำจัดเศษอาหารที่เราคุ้นเคยและหลายบ้านมักทำกัน คือ เทเศษอาหารรวมในถุงขยะแล้วรวบไปทิ้ง แต่จริงๆ แล้วยังมีวิธีอื่นอีกไม่ว่าจะเป็น การขุดหลุมฝัง การใช้เครื่องกำจัดเศษอาหาร ซึ่งแต่ละวิธีก็จะมีข้อดีข้อเสียแตกต่างไป ครั้งนี้ SCG Home จึงขอหยิบยกเรื่องราวเกี่ยวกับวิธีกำจัดเศษอาหารในบ้านมาเล่าสู่กันฟัง
1) กำจัดเศษอาหารโดยทิ้งใส่ถุงขยะ ถือเป็นวิธีกำจัดเศษอาหารที่นิยมที่สุดตามที่กล่าวไปข้างต้น เพียงแค่นำถุงขยะมาสวมลงถังแล้วทิ้งเศษอาหารลงไป จากนั้นรวบไปวางไว้ในจุดทิ้งขยะ เพื่อส่งต่อให้เทศบาลมาเก็บนำไปฝังกลบหรือทำปุ๋ยหมัก ทั้งนี้ แม้จะเป็นวิธีกำจัดเศษอาหารที่สะดวกสำหรับเจ้าของบ้าน แต่ทางเทศบาลต้องใช้พื้นที่เยอะในการจัดการ รวมถึงในการหมักปุ๋ยจากขยะเศษอาหารจำนวนมากจะต้องใช้น้ำกับออกซิเจนเยอะ ทั้งยังก่อให้เกิดก๊าซมีเทน ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการสร้างสภาวะเรือนกระจกด้วย ดังนั้น หากเป็นไปได้ เราอาจช่วยแบ่งเบาด้วยการจัดสรรอาหารอย่างพอดีให้เหลือทิ้งน้อยที่สุด และไม่นำขยะประเภทอื่นมาทิ้งรวมกับเศษอาหาร เพื่อลดภาระการจัดการกำจัดเศษอาหารของเทศบาลและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
นอกจากนี้ เพื่อสุขอนามัยภายในบ้าน ควรมีการจัดถังทิ้งเศษอาหารให้เป็นสัดส่วน ปิดฝามิดชิด และหมั่นนำไปทิ้งเป็นประจำ มิฉะนั้นอาจโดนสัตว์หรือแมลงมารบกวน (เช่น หนู แมลงวัน แมลงสาบ) รวมถึงกลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคได้ และควรมีการกรองเศษอาหารให้ดี ไม่ปล่อยให้เศษอาหารชิ้นใหญ่ไหลลงท่ออ่างล้างจานซึ่งอาจทำให้ท่อตันง่าย
2) กำจัดเศษอาหารโดยขุดหลุมฝัง การกำจัดเศษอาหารวิธีนี้เหมาะกับบ้านซึ่งมีพื้นที่ภายนอกกว้างขวางเพียงพอ สำหรับปลูกต้นไม้ นับเป็นวิธีที่ช่วยลดภาระการจัดการขยะของเทศบาล รวมถึงเศษอาหารที่ฝังกลบจะกลายเป็นปุ๋ยบำรุงดินสำหรับต้นไม้ในบ้านด้วย
อย่างไรก็ตาม การกำจัดเศษอาหารวิธีนี้ควรทำให้เป็นสัดส่วนมิดชิด เพื่อเลี่ยงปัญหากลิ่นเหม็น สัตว์สกปรกอย่าง หนู แมลงวัน แมลงสาบมารบกวน รวมถึงต้องระวังไม่ให้สุนัขมาคุ้ยพื้นดินด้วย (อาจต้องขุดหลุมให้ลึกพอสมควร) นอกจากนี้ ควรระวังเรื่องปริมาณไขมันจากเศษอาหาร เพราะหากในดินมีไขมันมากเกินไปอาจทำให้น้ำ/อากาศ ซึมผ่านดินยากจนพืชขาดน้ำได้
3) ใช้เครื่องกำจัดเศษอาหาร เพื่อแปลงเป็นปุ๋ยแบบแห้ง สำหรับบ้าน/ที่อยู่อาศัยซึ่งมีพื้นที่จำกัดและไม่มีระบบบำบัดรองรับน้ำเสียจากครัว การกำจัดเศษอาหารด้วยวิธีนี้ ถือว่าตอบโจทย์และสะดวกง่ายดายมาก ช่วยลดขยะ กลิ่น ปัญหาสัตว์/แมลง รบกวน และการสะสมของเชื้อโรค เพียงแค่ใส่อาหารลงไปแล้วกดปุ่ม เศษอาหารจะถูกย่อยกลายเป็นปุ๋ยแห้ง ใช้ผสมลงดินปลูกต้นไม้ได้
เครื่องกำจัดเศษอาหารประเภทนี้ มักย่อยเศษอาหารได้หลากหลาย ทั้งกระดูกไก่ เปลือกไข่ ก้างปลา ฯลฯ ระยะเวลาของการแปลงเศษอาหารให้กลายเป็นปุ๋ย อาจขึ้นอยู่กับขนาด และรุ่นของเครื่องกำจัดเศษอาหารเอง ปริมาณอาหาร และที่สำคัญอีกประการคือ ปริมาณน้ำที่ใส่ เพราะหลักการทำงานทั่วไปของเครื่องกำจัดเศษอาหารประเภทนี้ จะมีทั้งการบดและทำให้แห้ง นั่นหมายความว่าจะต้องมีการไล่น้ำออกจากเศษอาหาร ดังนั้น หากต้องการให้เศษอาหารถูกแปลงเป็นปุ๋ยได้เร็ว และช่วยแบ่งเบาการทำงานของเครื่อง อาจแยกน้ำบางส่วน (เช่น น้ำแกง) ออกจากอาหารก่อนที่จะเทใส่เครื่องกำจัดขยะเศษอาหาร
4) ใช้เครื่องกำจัดเศษอาหารที่ติดตั้งกับอ่างล้างจาน การกำจัดเศษอาหารวิธีนี้สำหรับบ้าน/หมู่บ้าน/คอนโด ที่มีถังดักไขมันและระบบรองรับน้ำเสียจากครัว หลักการคือ เมื่อติดตั้งเครื่องกำจัดเศษอาหารชนิดนี้เข้ากับสะดืออ่างล้างจาน ก็จะสามารถเทเศษอาหารพร้อมน้ำซุปต่างๆ ลงอ่างล้างจานได้ จึงสะดวกกว่าเครื่องกำจัดเศษอาหารเพื่อแปลงเป็นปุ๋ยแบบแห้ง และมักมีราคาถูกกว่า โดยได้อรรถประโยชน์ใกล้เคียงกัน คือ กำจัดเศษอาหารได้หลากหลาย (ทั้งกระดูกไก่ เปลือกไข่ ก้างปลา ฯลฯ) ช่วยลดขยะ กลิ่นเหม็น ปัญหาสัตว์/ แมลงรบกวน และการสะสมของเชื้อโรค
เครื่องกำจัดเศษอาหารชนิดนี้ใช้งานได้ง่ายๆ โดย เปิดสวิตช์เครื่อง และเปิดน้ำจากก๊อก จากนั้นจึงค่อยเทเศษอาหารใส่ลงไปในสะดืออ่าง อุปกรณ์จะทำการบดย่อยเศษอาหารจนมีขนาดเล็ก ไม่ทำให้ท่อตัน จากนั้นจึงค่อยลำเลียงต่อไปตามท่อระบายน้ำ เพื่อเข้าสู่ระบบบำบัดน้ำเสียต่อไป (อาจมีตะกอนบางส่วนอยู่บ้างตามถังดักไขมัน/บ่อพัก ซึ่งเมื่อนำไปฝังกลบหรือทำปุ๋ยหมัก จะสามารถย่อยสลายได้ง่ายและเร็วกว่าขยะอาหารทั่วไปที่ไม่ผ่านการบดย่อย
เมื่อเจ้าของบ้านทราบถึงวิธีต่างๆ ในการกำจัดเศษอาหารภายในบ้านแล้ว อาจลองพิจารณาเลือกใช้ตามความเหมาะสม เช่น ถ้าไม่อยากนำเศษมารวมใส่ถุงขยะทิ้งแบบเดิม อาจหันมาลองใช้วิธีฝังกลบใต้ต้นไม้ในสวนรอบบ้านแทน แต่หากไม่มีพื้นที่สวนรอบบ้าน หรือเกรงว่าจะมีสัตว์หรือแมลงรบกวน อาจหันมาเลือกใช้เครื่องกำจัดเศษอาหารตามความเหมาะสม เป็นต้น
ขอขอบคุณที่มาของบทความ
scghome.com